“นิทรรศน์รัตนโกสินทร์” พิพิธภัณฑ์ที่คนไทยควรไป

“นิทรรศน์รัตนโกสินทร์” พิพิธภัณฑ์ที่คนไทยควรไป

พิพิธภัณฑ์รูปแบบใหม่ที่นำเทคโนโลยีมัลติมีเดียมาใช้ในการนำเสนอความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์รัตนโกสินทร์

ถ้ามีเวลาว่าง1วัน ในกรุงเทพ …

คนไทยควรไปที่ไหนดี?

ไปในสถานที่ไม่วุ่นวาย

ไปในสถานที่ที่ได้ความรู้ใหม่

ไปในสถานที่ที่ตื่นตาตื่นใจ

ไปในสถานที่ที่ทำให้เรารู้ว่าเรามาจากไหน

ไปในสถานที่ที่เรารู้อดีตของตัวเองและบ้านเมือง

และรู้ว่าอดีตรากเหง้าของความเป็นไทยมาได้อย่างไร

เป็นที่ทราบกันดีโดยทั่วกัน กับชื่อเมืองหลวงของไทยที่มีชื่อยาวที่สุดในโลก “กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุธยา มหาดิลกภพ นพรัตนราชธานีบูรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต สักกะทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์” แต่จะมีซักกี่คนที่รู้ความหมายของชื่ออันศักดิ์สิทธิ์นี้

มีสถานที่หนึ่งที่สามารถให้คำตอบเราได้

ว่าความหมายที่แท้จริงของชื่อเมืองหลวงของไทย มีความหมายว่าอย่างไร

ผ่านการชมพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งที่คนไทยควรไป

“นิทรรศน์รัตนโกสินทร์” เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยต้นกรุงก่อตั้งกรุงรัตนโกสินทร์และสถาปนากรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวงของไทย ที่นี่รวบรวมเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับศิลปะและวัฒนธรรม รวมไปถึงเรื่องราวที่เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์แต่ละพระองค์ นิทรรศน์รัตนโกสินทร์แห่งนี้ถือได้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์สมัยใหม่ ที่มีการจัดแสดงในการำสื่อแบบมัลติมีเดียเข้ามานำเสนอ เพื่อสื่อให้ผู้ชมเห็นความเป็นไทย ผ่านรูปแบบของนิทรรศการ

เมื่อได้มีโอกาสก้าวเข้าไปในอาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ความรู้สึกแรกเมื่อเราก้าวเข้าไปในอาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ สิ่งแรกที่สัมผัสถึงความเป็นไทยได้ก็คือ การต้อนรับแบบยิ้มแย้มแจ่มใสของพนักงานและวิทยากร เป็นยิ้มที่เห็นแล้ว เรียกได้ว่า นี่หล่ะ ยิ้มของคนแผ่นดินสยาม เมื่อเราค่อยๆเดินต่อไปถึงจุดเริ่มต้นของการเดินทางชมนิทรรศการ ภาพของพิพิธภัณฑ์ในรูปแบบเก่าจะถูกลบหายไปในทันที การจัดแสดงในส่วนต่างๆที่อยู่ตรงหน้าของเราทั้งหมดนี้ เป็นการนำเสนอที่มีความความเคลื่อนไหว มีแสง สีผ่านและความเคลื่อนไหวกิจกรรมต่างๆ ที่ให้ผู้เข้าชมสามารถมีส่วนร่วม ซึ่งทุกห้องนิทรรศน์ทั้งหมดได้ร้อยเรียงเรื่องราวของกรุงรัตนโกสินทร์เข้าไว้ด้วยกัน อย่างครบถ้วนและน่าตื่นตาตื่นใจ สมกับสโลแกนของที่นี่ นั่นคือ Experience the best of Rattanakosin in a day “คุณค่าแห่งยุคสมัย สัมผัสได้ในหนึ่งวัน”

ห้องจัดแสดงทั้งหมดของที่นี่ ตั้งชื่อไว้อย่างคล้องจองกัน ทั้งหมด 9 ห้อง รวมกันหมายถึง “อัญมณี แห่งมหานคร” ซึ่งได้แก่

  1. ห้องรัตนโกสินทร์เรืองโรจน์
  2. ห้องเกียรติยศแผ่นดินสยาม
  3. ห้องเรืองนามหรสพศิลป์
  4. ห้องลือระบิลพระราชพิธี
  5. ห้องสง่าศรีสถาปัตยกรรม
  6. ห้องดื่มดำย่านชุมชน
  7. ห้องเยี่ยมยลถิ่นกรุง
  8. ห้องเรืองรุ่งวิถีไทย
  9. ห้องดวงใจปวงประชา

แต่ละส่วนจะมีเจ้าหน้าที่นำชมในส่วนต่างๆ โดยจะแบ่งออกเป็นรอบๆ ห่างกันรอบละประมาณ 20 นาที ก่อนจะเข้าไปชมในห้องแรก เราจะต้องก้าวผ่านอุโมงค์เวลากันซะก่อน ในแต่ละแถบของอุโมงค์กาลเวลานี้ จะห่างกันอันละ 25 ปี โดยเริ่มจากที่สร้างกรุงรัตนโกสินทร์ ส่วนฝั่งภาษาอังกฤษจะมีแค่ 6 แถบ แต่ฝั่งภาษาไทยจะมี 9 แถบ ในแต่ละแถบก็จะมีเรื่องราวหรือเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นโดยด้านบนจะเป็นเหตุการณ์หรือเรื่องราวในประเทศไทย ส่วนด้านล่างจะเป็นเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นของโลก ในส่วนนี้จะบอกเล่าเรื่องราวของเหตุการณ์ สถานที่ และช่วงเวลาสำคัญตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ห้องรัตนโกสินทร์เรืองโรจน์

จะได้ชมการวางผังเมืองเพื่อป้องการราชอาณาจักรในสมัยรัชกาลที่1 เช่นสมัยอยุธยา และทรงสร้างบ้านแปงเมือง พร้อมกับการบำรุงขวัญประชาชน ฟื้นฟูพระพุทธศาสนา และศิลปวัฒนธรรม โดยใช้สื่อผสม 4 มิติ ที่น่าตื่นตาตื่นใจ

ห้องเกียรติยศแผ่นดินสยาม

ห้องนี้จัดแสดงความยิ่งใหญ่ความสง่างามของพระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดารามเมื่อเดินตรงเข้ามา จะพบกับยักษ์ 2 ตน คือสหัสเดชะและทศกัณฐ์ ทำหน้าที่เผ้าประตูพระบรมมหาราชวัง และในห้องนี้เราจะได้ชมพระแก้วมรกตในเครื่องทรงครบทั้ง 3 ฤดู

ถัดไปเมื่อเดินเข้ามาข้างในอีกนิด จะเป็นเขตพระราชฐานชั้นใน(สมัยก่อนเป็นเขตต้องห้ามสำหรับผู้ชาย) แต่ในนิทรรศการนี้ผู้ชายสามารถเข้าได้ เมื่อผ่านประตูย่ำค่ำจะพบหุ่นจำลองที่จำลอง จ่าโขลน หรือตำรวจหญิงที่คอยตรวจตราความปลอดภัยในเขตพระราชฐานชั้นในและหญิงสาวชาววังที่กำลังร้อยพวงมาลัยหรือทำอาหาร เดินๆไปก็คับคล้ายคับคลาเหมือนในเรื่องสี่แผ่นดิน เมื่อสมัยที่แม่พลอยเข้าถวายตัวในวังครั้งแรกเลยหล่ะ

ห้องเรืองนามหรสพศิลป์

ห้องนี้จัดแสดงเกี่ยวกับมหรสพและการละเล่นหลากหลายชนิดที่ได้ให้ความบันเทิงแก่คนไทยมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เช่น หนังใหญ่  โขน รำ ละครและหุ่นต่างๆ คือมหรสพสำคัญของกรุงรัตนโกสินทร์ โดยเราจะได้ย้อนยุคไปชมบรรยากาศมหรสพสมโภชในมุมมอง 360 องศา เสมือนได้อยู่กลางบรรยากาศการเฉลิมฉลองเลยทีเดียว

ห้องลือระบิลพระราชพิธี

ห้องที่จัดแสดงพระราชพิธีที่สำคัญหลายพระราชพิธี เช่น  พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เพื่อชูขวัญกำลังใจให้กับเกษตรกรไทย ผู้เป็นกระดูกสันหลังของชาติและเพื่ออนุรักษ์ไว้ซึ่งภูมิปัญญาของบรรพชนไทย

ห้องสง่าศรีสถาปัตยกรรม

เป็นห้องจัดแสดงเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรม วัด วัง บ้านในกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งมีวิวัฒนาการเปลี่ยนแปลงไปแต่ละยุคสมัย ซึ่งพัฒนารูปแบบการดำเนินชีวิตให้สอดคล้องกับความเจริญทางด้านเทคโนโลยีที่เข้ามา รวมถึงการรับเอาศิลปะวัฒนธรรมจากจีนและชาติตะวันตกมาปรับใช้ จนทำให้มีลักษณะหลากหลายดังที่ปรากฏให้เห็นในปัจจุบัน

ห้องดื่มด่ำย่านชุมชน

เป็นห้องที่ได้รวบรวม จัดแสดงวิถีทำกินและความเป็นอยู่ของชุมชนบนเกาะรัตนโกสินทร์ที่ได้รวบรวม 12 ชุมชนบนเกาะรัตนโกสินทร์มาไว้ในที่เดียว แค่เราเหยียบย่ำเท้าลงไปยังจุดต่างๆ ในแผนที่บนพื้นห้อง ลวดลายกราฟฟิกก็จะปรากฏและพาเราไปรู้จักกับชุมชนนั้นๆ พร้อมเสียงบรรยายของอ.เผ่าทอง ทองเจือ ที่บรรยายรายละเอียดของชุมชนนั้นๆ ให้ทราบ

ห้องเยี่ยมยลถิ่นกรุง

ก่อนที่จะได้เข้าชมห้องเยี่ยมยลถิ่นกรุง ทางซ้ายมือจะมีร้านถ่ายรูปอยู่ จะมีช่างภาพเชิญชวนให้เราถ่ายรูปด้วยกล้องโบราณ ซึ่งเป็นกล้องที่รุ่นใหญ่โบราณมีขาตั้งกล้องและคนถ่ายก็ต้องมุดเข้าไปในผ้า เพื่อทำการถ่ายภาพ ทำให้นึกถึงในสมัยนั้น กว่าจะถ่ายภาพได้แต่ละใบนี้ต้องเตรียมการใช้เวลาไม่น้อยเลยทีเดียว เมื่อเราถ่ายรูปแล้วก็เดินเข้ามาในห้องเยี่ยมยลถิ่นกรุง ซึ่งจะได้ชมการ์ตูนแอนนิเมชั่น โดยเราจะได้เป็นตัวการ์ตูนตัวหนึ่งในการ์ตูนแอนนิเมชั่นเรื่องการท่องเที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ซึ่งพอเห็นหน้าตาตัวเองเป็นตัวการ์ตูนก็ดูแปลกตาไปอีกแบบ

ห้องเรืองรุ่งวิถีไทย

ห้องนี้จะให้ความรู้สึกเหมือนเรากำลังเดินทางผ่านกาลเวลา เพื่อเรียนรู้ลักษณะวิถีความเป็นอยู่ของคนไทยนับตั้งแต่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์จนถึงปัจจุบัน ทำให้เราทราบถึงภูมิปัญญา วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีของกรุงรัตนโกสินทร์ในแต่ละยุค ต้นกรุงรัตนโกสินทร์(รัชกาลที่1–3) เรียนรู้วัฒนธรรมประเพณีในทุกช่วงชีวิตของคนไทยในยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ผ่านเกมทัชสกรีน และจำลองการล่องเรือชมวิถีชีวิตริมสายน้ำ เมื่อพัฒนาสู่อารยะ (รัชกาลที่4–6) จำลองการนั่งรถรางชมวิถีชีวิตชาวสยามสองฝั่งถนนเจริญกรุง ถนนสายแรกซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นแห่งพัฒนาการต่างๆและเดินชมร้านค้าในสมัยก่อนื และยังสามารถบันทึกความประทับใจใส่โปสการ์ดส่งกลับบ้านเป็นที่ระลึกได้อีกด้วย หลังเปลี่ยนแปลงการปกครองจนปัจจุบัน(รัชกาลที่7–9)  สัมผัสวิถีชีวิตคนไทยนับตั้งแต่สมัยแห่งเปลี่ยนแปลงการปกครอง ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง จนกระทั่งถึงยุคปัจจุบัน ผ่านเทคนิคและสื่อมัลติมีเดีย

ห้องดวงใจปวงประชา

เป็นนิทรรศการแสดงเรื่องราวของ “กรุงรัตนโกสินทร์” ได้รับการสถาปนาขึ้นมา โดยพระมหากษัตริย์ในพระบรมราชจักรีวงศ์ ความเป็นชาติที่มีเอกราชและอารยะ ได้แสดงให้เห็นว่า การดำรงสถานะกษัตริย์ตลอดทั้ง 9 รัชกาล ซึ่งเปรียบเหมือนพ่อของแผ่นดินและของชาวไทยทุกคนไม่ว่าจะเป็นรัชสมัยใดก็ตาม ที่กษัตริย์ไม่ได้อยู่ในความสะดวกสบาย แต่เป็นผู้ที่มีความสามารถสูงยิ่งในการนำพาประเทศรอดพ้นจากวิกฤตการณ์และสร้างความอยู่ดีมีสุขแก่ประชาชน นั่นคือ พระราชกรณียกิจนานัปการที่ได้ถ่ายทอดไว้ในนิทรรศการห้องนี้

หลังจากที่เดินชมกันมาได้หลายห้อง เราสามารถแวะพักชมเมืองหลวงของเราในจุดชมทิวทัศน์บริเวณชั้น 4 ซึ่งสามารถมองเห็น ถนนราชดำเนินกลางที่รถกำลังวิ่งไปมา ผู้คนกำลังเิดนขวักไขว่ มองไปเห็นวัดภูเขาทอง ป้อมมหากาฬ ลานพลับพลามหาเจษฏาบดินทร์ และพระโลหะปราสาท ในมุมที่สวยอีกมุมหนึ่งของกรุงเทพ ยิ่งถ้าเป็นเวลาช่วงเย็น บรรยากาศที่มองไป ทำให้เราชวนคิดว่าเมื่อร้อยปีก่อน แถบนี้จะเป็นอย่างไร

ข้อมูลของนิทรรศน์รัตนโกสินทร์

 

วัน-เวลา : เปิดทุกวันเวลา 10.00-19.00 น. (ปิดเฉพาะวันจันทร์)

บริการนำเข้าชมเป็นรอบเเละมีวิทยากรพาชมและให้ความรู้

 

รอบเข้าชม : มีรอบเข้าชมทุกๆ 20 นาที ตั้งแต่เวลา 10.00-17.00 น. จำนวน 22 รอบต่อวัน โดยรอบสุดท้ายให้บริการในเวลา 17.00 น. และ ในกรณีที่ต้องการเข้าชม 2 เส้นทาง รอบสุดท้าย เวลา15.00 น.

 

ที่ตั้ง : 100 ถนนราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

อยู่ติดกับวัดราชนัดดา,ถนนราชดำเนินกลาง,ก่อนถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

 

การเดินทาง : ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 100 บาท

* เข้าชมฟรี สำหรับ

เด็กส่วนสูงน้อยกว่า 120 cm

นักเรียน / นักศึกษา ในเครื่องเเบบหรือเเสดงบัตรก็ได้

ผู้สูงอายุ มากกว่า 60 ปี (เเสดงบัตรประชาชน)

 

วิธีการเดินทาง :

โดยรถประจำทาง

รถปรับอากาศพิเศษ – สาย  ปอ.พ.10-1, ปอ.พ.10-2, ปอ.พ.10-3

รถปรับอากาศ – สาย ปอ.12, ปอ.44, ปอ.59, ปอ.60, ปอ.70, ปอ.79, ปอ.157, ปอ.1

ปอ.185, ปอ.201, ปอ.503, ปอ.511, ปอ.509

รถธรรมดา – สาย  2, 3, 9, 12, 15, 31, 33, 35, 39, 42, 44, 47, 59, 60, 64, 68, 70, 79, 82, 86, 169, 201

การเดินทางโดยทางเรือ: เส้นทางเดินเรือคลองแสนแสบ (เรือหางยาว) โดยนั่งมาสุดเส้นทางที่ท่าเรือสะพานผ่านฟ้าลีลาศ เดินมาทางซ้ายมืออยู่ใกล้กับลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์

สถานีและจุดเชื่อมต่อการเดินทาง (รถไฟฟ้า-เรือ)

สถานีรถไฟฟ้า ใต้ดิน MRT อโศก สามารถเชื่อมต่อ เรือโดยสารคลองแสนแสบท่าอโศก

สถานีรถไฟฟ้า BTS ราชเทวี สามารถเชื่อมต่อ เรือโดยสารคลองแสนแสบท่าสะพานหัวช้าง

Leave a Reply

*