10 เมืองสุดเจ๋ง สำหรับคนอยากไปท่องเที่ยวและเรียนภาษา

มานี่เลยยยยยยยยยย…. สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่คิดอยากจะเดินทางไปต่างประเทศเพื่อไปเที่ยว ไปเรียนภาษาใหม่ การเรียนต่อต่างประเทศเลยเป็นอีกเหตุผลที่ดีเหตุผลหนึ่งที่เพื่อนๆ จะได้อาศัยช่วงเวลานี้เดินไปไปแบบ 2 in 1 ได้ทั้งเรียนต่อและยังได้เที่ยวต่างประเทศอีก

ก็นอกจากจะได้รับความสนุกแล้ว ก็ได้เพิ่มทักษะใหม่และเสริมประวัติ resume ของเพื่อนๆ ให้ดูดีมากขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นการทำให้ทัศนวิสัยของเรากว้างไกล ได้รู้จักคนจากหลากหลายเชื้อชาติมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามการเลือกเมืองที่จะไปเรียนต่อนั้นเป็นเรื่องสำคัญ ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่าเราอยากเรียนภาษาอะไร อยากอยู่ในเมืองที่มีคุณสมบัติแบบใด

วันนี้สถาบันสอนภาษา EF Education First เค้าจะมาช่วยเลือกเมือง 10 เมืองที่ดีที่สุดสำหรับใครต้องการเรียนภาษาต่างประเทศ ถ้าพร้อมแล้ว ไมก็ขอมอบอำนาจนี้ให้กับ EF Education First เลยนะครับบบบบ!!!

1.ลอนดอน

กรุงลอนดอน เมืองที่ใครๆก็ต่างใฝ่ฝันที่จะมาเรียนภาษาอังกฤษ กรุงลอนดอนเต็มไปด้วยผู้คนจากหลากหลายเชื้อชาติศาสนา แต่ต่างก็ร่วมใจกันพูดภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษากลางที่ใช้ในการสื่อสาร ด้วยความที่กรุงลอนดอนนั้นเป็นตัวเมือง ทำให้ชีวิตของคนที่นี่มีความเป็นตัวเมืองสูง การใช้ชีวิตที่นี่จึงอาจจะมีความรีบเร่ง จึงเหมาะสำหรับใครที่ชื่นชอบความเป็นตัวเมืองที่ไม่หลับไหล มีอะไรทำเรื่อยๆ กรุงลอนดอนยังมีชื่อเสียงด้านความเป็นตัวของตัวเอง เมื่อคุณเดินไปตามตลาดอย่าง Camden Market หรือ Borough Market คุณจะมีโอกาสลิ้มลองอาหารนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็นอาหารญี่ปุ่น จีน ตุรกี อาหรับ หรือแม้กระทั่งอาหารไทย ไม่ว่าคุณจะเป็นคนชาติไหน เมื่อคุณมาลอนดอน ทุกคนถือว่าเป็น “Londoner” เท่าเทียมกัน

2.ซิดนีย์

เมืองซิดนีย์ เมืองที่มีแดดออกและอากาศที่อุ่นตลอดทั้งปี รวมไปถึงน้ำทะเลที่ใสสวยงาม นี่เป็นหนึ่งในสิ่งที่ใครหลายๆคนชอบเกี่ยวกับเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ด้วยความที่ประเทศออสเตรเลียมีการแชร์ประวัติศาสตร์เก่าร่วมกับประเทศอังกฤษ ทำให้ซิดนีย์ก็อีกเมืองหนึ่งที่เหมาะสำหรับใครที่ต้องการจะเรียนภาษาอังกฤษ เมื่อคุณมาซิดนีย์ คุณต้องเผชิญความกลัวและพยายามพูดกับคนแปลกหน้า ไม่ว่าจะเป็นบาริสต้า หรือคนที่เดินผ่านไปมาผ่านมาในถนน คุณจะได้ฝึกภาษาอังกฤษกับพวกเขาและทำให้ทักษะภาษาอังกฤษของคุณดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อคุณกลับบ้านไปคุณอาจจะมีสำเนียงออสซี่ติดไม้ติดมือกลับไปฝากคนที่บ้าน

3.ปารีส

กรุงปารีส เมืองโรแมนติกที่เหมือนหลุดออกมาจากเทพนิยาย คุณอาจจะใช้ข้ออ้างว่าคุณจะเรียนภาษาฝรั่งเศสเพื่อที่ได้จะไปเที่ยวกรุงปารีส เมื่อคุณมาที่นี่ คุณจะสัมผัสได้ถึงความสวยงามของกรุงปารีส ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์มากมาย ในระหว่างที่คุณฝึกเรียนภาษาฝรั่งเศส คุณอาจจะแวะเข้าร้านอาหารฝรั่งเศสที่แสนอร่อยและมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก หรืออาจจะแวะร้านเบเกอรี่เพื่อชิมมาการองแสนอร่อย ของโปรดของใครหลายๆคน เมื่อคุณเดินรอบแม่น้ำแซน (River Seine) แม่น้ำสายหลักของกรุงปารีส คุณอาจจะได้ยินสำเนียงภาษาฝรั่งเศสสำเนียงแบบปารีส คุณอาจจะเรียนรู้คำศัพท์แสลงใหม่ๆเป็นภาษาฝรั่งเศส ภาษาแห่งความรัก

4.ซานฟรานซิสโก

ซานฟรานซิสโก ถือว่าเป็นเมืองที่เป็นไปด้วย creativity หรือความคิดสร้างสรรค์สูง คนที่อาศัยอยู่ที่นี่ประกอบไปด้วยความเป็นอาร์ทติสและความเป็นของตัวเองสูง San Francisco นั้นถือว่าเป็นศูนย์กลางของนักธุรกิจ เทคโนโลยีและบริษัทใหญ่มากมายที่รวมอยู่ที่ซานฟรานซิสโก หรือ Silicon Valley ซานฟรานซิสโกเองมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังใหญ่ Golden Gate Bridge สะพานยาวที่ทอดข้ามอ่าวตอนเหนือของกรุงซานฟรานซิสโก เมืองนี้เหมาะสำหรับผู้คนที่มีพลังและแรงบันดาลใจที่กล้าคิด กล้าทำ นอกจากท่องเที่ยวไปในกรุงซานฟรานซิสโก คุณอาจจะได้เรียนภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกันที่คุณอาจคุ้นชินมาจากภาพยนตร์หรือซี่รีย์อเมริกันหลายๆเรื่องอีกด้วย

5.แวนคูเวอร์

เมืองแวนคูเวอร์เป็นเมืองใหญ่ของประเทศแคนาดา ที่เหมาะสำหรับใครที่อยากจะเรียนภาษาอังกฤษอีกเช่นกัน เมืองนี้เป็นเมืองหนึ่งที่มีวิวทัศน์ที่สวยงามและตั้งอยู่บนรัฐบริทิชโคลัมเบีย เมื่อคุณมาแวนคูเวอร์ คุณสามารถเล่นสกีบนภูเขาที่ปลกคลุมไปด้วยหิมะ หรือตกปลา ทักษะเหล่านี้คุณสามารถใส่ลงในประวัติส่วนตัวหรือ Resume ของคุณได้อีกด้วย นอกเหนือไปกว่านั้น คนแคนาดายังมีชื่อเสียงในด้านความเป็นมิตร คุณอาจจะเรียนรู้กีฬาใหม่ๆอย่าง การเล่นฮอกกี้น้ำแข็ง

6.ทามารินโด

คอสตาริกา ประเทศที่ตั้งอยู่ในทวีปอเมริกากลางที่ใครๆอาจจะไม่คุ้นชิน เมืองอย่างทามารินโด หรือ (Playa Tamarindo) นั้นเต็มไปด้วยชายหาดที่สวยงาม ที่คุณสามารถว่ายน้ำ เล่นกีฬาทางน้ำ หรือเล่นเสิร์ฟ (surfing) เป็นต้น เมืองทามารินโดนั้นมีคำขวัญอันโด่งดังเป็นภาษาสเปนว่า “Pura Vida” ที่มีความหมายเป็นภาษาอังกฤษว่า ‘pure life’ หรือชีวิตที่บริสุทธิ์ นอกจากการเล่นน้ำและใช้ชีวิตแบบ slow life แล้ว คุณสามารถเรียนภาษาสเปนและพูดคุยกับชาวท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงด้านความอัธยาศัยดี ทำให้ภาษาสเปนของคุณได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว!

7.เคปทาวน์

เคปทาวน์ เมืองใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศแอฟริกาใต้นั้นเป็นอีกเมืองหนึ่งที่เหมาะสำหรับใครที่ต้องการจะเรียนภาษาอังกฤษ เพราะประเทศแอฟริกาใต้ก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่ใช้ภาษาอังกฤษเช่นเดียวกันเนื่องจากอิทธิพลและประวัติศาสตร์ที่ร่วมกันกับประเทศอังกฤษในอดีต เคปทาวน์มีชื่อเสียงอย่างสวนสัตว์ซาฟารี เอาใจคนรักธรรมชาติและสัตว์ คุณจะพบกับสัตว์ป่ามากมายอย่าง สิงโต ม้าลาย รวมไปถึงควาย แต่ในขณะเดียวกันอีกฟากหนึ่งของเมือง เคปทาวน์ก็มีความเป็นตัวเมืองและทันสมัย คุณสามารถเยี่ยมชมเกาะรอบเบ็น (Robben island) ซึ่งเป็นคุกขังของ เนลสัน เมนดาลา ประธานาธิปดีผิวดำคนแรกของแอฟริกาใต้

8.โตเกียว

กรุงโตเกียวนั้นมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองและไม่เหมือนกับเมืองอื่นๆในโลก เป็นที่รู้กันอยู่ว่ากรุงโตเกียวนั้นมีความทันสมัย มีตึกสูง และคาเฟ่หุ่นยนต์ ในขณะเดียวกันก็มีธรรมชาติที่สวยงามอย่างดอกซากุระ เชอรี่บลอสซ่อม รวมไปถึงวัดวาอารามที่สวยงาม เมื่อคุณมาอยู่ที่กรุงโตเกียว เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น คุณจะสามารถเรียนภาษาญี่ปุ่นได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าคุณจะเดินทางไปไหน ขึ้นรถไฟชินคันเซ็น คุณสามารถฝึกการพูดภาษาญี่ปุ่นกับคนญี่ปุ่นได้ตลอดเวลา กรุงโตเกียวยังประกอบไปด้วยอาหารอร่อยมากมายที่ดังไปทั่วโลกอย่าง ซูชิ ราเม็ง หรืออูด้ง คุณอาจจะฝึกทักษะการพูดและสนทนาจากการสั่งอาหารในร้านอาหารญี่ปุ่น ที่ทำให้ทักษะภาษาญี่ปุ่นของคุณคล่องแคล่วและมีสำเนียงใกล้กับเจ้าของภาษา

9.บริสตอล

เมืองบริสตอล อีกเมืองหนึ่งของประเทศอังกฤษที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกและมีคุณลักษณะเป็นเมืองอ่าว ที่อาจจะไม่ใหญ่และพลุกพล่านเหมือนกรุงลอนดอน แต่คุณก็สามารถทำอะไรได้หลายๆอย่างเช่นกันและแน่นอนคุณสามารถเรียนภาษาอังกฤษได้เช่นกัน เมืองนี้มีมหาวิทยาลัยชื่อดังอย่าง University of Bristol ที่มีชื่อเสียงในหลายๆสาขาวิชาไม่ว่าจะเป็นด้าน ปรัชญาหรือวรรณกรรม สิ่งหนึ่งที่คุณสามารถสังเกตได้เมื่อมากรุง Bristolคือ สถาปัตยกรรมของเมืองที่สวยงามและเก่าแก่ ถึงแม้ว่า Bristol จะไม่ได้มีบรรยากาศของความเป็นตัวเมืองเหมือนกรุงลอนดอน แต่คุณก็สามารถหากิจกรรมทำได้หลายๆอย่างเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นดนตรีสด ผับหรือบาร์ ในกรณีที่ใครอยากจะสัมผัสความเป็นเมืองอย่างแท้จริงอย่างกรุงลอนดอน คุณสามารถนั่งรถไฟไปได้ง่ายๆเพียงแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น

10.บอสตัน

อีกเมืองหนึ่ง สำหรับใครที่ต้องการจะเรียนภาษาอังกฤษในบรรยากาศเงียบสงบและเป็นเมืองของการศึกษา Boston เป็นเมืองมหาวิทยาลัยที่มีมหาวิทยาลัยชื่อดังหลายๆแห่งที่ติด Top 10 ของโลก ไม่ว่าจะเป็น Harvard University และ Massachusetts Institute of Technology หรือ MIT ทำให้เมืองนี้เป็นเมืองการศึกษาที่อ้าแขนต้อนรับนักเรียน สำเนียงบอสตันถือว่าเป็นสำเนียงอเมริกันที่ไพเราะและจัดว่า posh หรูหราสุดๆ ดังนั้นสำหรับใครที่เยี่ยมบอสตัน อย่าลืมเรียนรู้ศัพท์แสลงหรือวิธีการออกเสียงสำเนียงอเมริกันแบบบอสตันดูล่ะ!

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับ 10 สถานที่สุดเจ๋ง ที่เหมาะแก่การไปเรียนต่อต่างประเทศบทนี้ น่าจะเป็น Guideline ให้เพื่อนๆ ได้ไม่มากก็น้อย จริงๆ ถ้ามีโอกาสนี่ก็อยากไปเองนะ แต่เริ่มแก่ละ ถ้าไม่ว่างหรือไม่มีงานทำจริงๆ ก็คงไม่ได้ไปแน่เลย แต่สำหรับน้องๆ หรือเพื่อนๆ คนไหนกำลังจบใหม่ไฟแรง ไมว่าคำแนะนำของ EF Education First นั้นดีมากๆ เลยล่ะ ยังไงก็ขอขอบคุณ EF Education First ไว้ ณ ที่นี่ด้วยนะครับ แล้วเจอกันระหว่างทางครับผม : )

Leave a Reply

*