ไต้หวัน-ไทเป “ทริปตัวแตกกินแหลกตลอดทาง”

นั่งส่องเฟสเผือกสเตตัสชาวบ้านเพลินๆ  ก็ดันไปสะดุดตากับโปรโมชั่นของสายการบินราคาประหยัด  ไทย ไลอ้อน แอร์  ที่เขาเปิดรูทบินใหม่ “ดอนเมือง – ไทเป”  ในราคาเริ่มต้นที่  2,955 บาทเองแกร๊  มีน้ำหนักกระเป๋าให้ฟรีอีก 20 กิโลกรัม  เห็นราคาเบาๆแล้วใจสั่นแบบนี้มันต้องโดน!!  เราเองก็ยังไม่เคยไปไต้หวันแต่ได้ยินชื่อเสียงว่าเหมือนได้เที่ยวจีนผสมญี่ปุ่น ของกินอร่อยถูกและดี  วีซ่าก็ไม่ต้องขอให้ยุ่งยากค่าเงินก็พอๆกับบ้านเรา  รู้ตัวอีกทีการสำรองที่นั่งของคุณสำเร็จแล้วจร้ามือไวใจเร็วตลอดน่าตีจิงๆเลยกุเนี่ย  ฮ่าๆๆๆ  แล้ววันเดินทางที่จองล่วงหน้าแค่ 5 วัน  ก็มาถึงเป็นวัยรุ่นตอนปลายมันก็จะใจร้อนหน่อยๆ

บินวันแรกกับเส้นทางใหม่มีของที่ระลึกแจกให้กับคนที่ร่วมเดินทางในไฟท์นี้ด้วย ^^

เนื่องจากเป็นเที่ยวบินไฟท์ดึกพอขึ้นเครื่องปุ๊บเราหลับมาตลอดทางเลย  ตื่นขึ้นมาช่วงสายๆเพราะความร้อนแรงของแสงอาทิตย์และก็ได้เห็นความสวยงามของบรรยากาศเหนือเมฆในยามเช้า  “ ไทเปจ๋าพี่มาแล้ว ”

หลังจากเดินทางมาประมาณ 3 ชั่วโมง  ก็มาถึงสนามบินนานาชาติเถาหยวน  ผ่านตม. รับกระเป๋าเรียบร้อย  ก็เข้ามาเจอกับพิธีต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ ไทย ไลอ้อน แอร์  เส้นทาง “ดอนเมือง – ไทเป”  แวะเก็บภาพมานิดเนิง

จากแผนที่คิดไว้คร่าวๆ  เราเลือกที่จะพุ่งตัวออกไปที่เมืองจีหลง (Keelung) เพราะอยู่ไม่ไกลจากไทเปมากนักเป็นเมืองเล็กๆที่มีทั้งภูเขา ทะเล  และของอร่อยๆ ทริปนี้ตัวไม่แตกเราจะไม่กลับ ฮ่าๆๆ

มาไต้หวันถ้าไม่เจอฝนคือเรื่องแปลกอย่าลืมพกร่มหรือชุดกันฝนติดตัวกันมาด้วยนะจ๊ะ  พร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย

Day 1

อุทยานหินเย่หลิ่ว (Yehliu  Geopark)

อุทยานหินเย่หลิ่ว (Yehliu  Geopark) อยู่ทางภาคเหนือของเกาะไต้หวัน หินรูปร่างประหลาดชายทะเล ที่เกิดจากการกัดกร่อนของน้ำทะเล  แรงลม  และการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก  เป็นศิลปะที่ถูกสร้างขึ้นโดยธรรมชาติมาเป็นเวลานานนับล้านปี

มีการสร้างรูปแบบจำลองไว้ให้ตามจุดต่างๆ

ก้อนหินรูปเสือดาว (The Leopard)

ด้านข้างมีตลาดขายพวกอาหารแห้งและของที่ระลึกมากมาย

เดินเล่นไปสักพักเริ่มหิว…มาที่นี่ต้องไม่พลาดอาหารทะเล!!! เราเลือกหม่ำบุฟเฟ่ต์เพราะมันหิวม๊ากกกกก

อาหารมื้อนี้เราทานกันในห้องอาหารของ  Boutix Resort Hotel Yehliu  ห้องพักก็ดีอาหารก็อร่อยลองแวะมาทานกันเน้อ

Yehliu  Geopark  :  เปิดให้บริการทุกวัน  เวลา  7.30-17.00 น.

บัตรเข้าชม  :  คนละ  80 NTD

การเดินทาง  :  ขึ้นรถบัสสาย 1815 จาก Taipei West Bus Station Terminal A (สถานี Taipei main Station Exit Z3) ต่อเดียวถึงเย่หลิ่ว  ใช้เวลาประมาณ  1 ชั่วโมงกว่าๆ

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  :  www.yigeopark.org.tw

Boutix Resort Hotel Yehliu  :  www.boutixhotels.com.tw

คืนนี้เราเข้าพักที่  Dance Woods  Resort  เมืองอี๋หลาน  ที่พักสไตล์ญี่ปุ่นอยู่ติดกับชายฝั่งทะเลแปซิฟิกที่มีเกาะเต่านอนเล่นอยู่กลางทะเล  ภายในรีสอร์ทมีกิจกรรมมากมายให้เราทำกันไม่เบื่อเลย

เริ่มที่ในห้องพักจะมีชุดยูกาตะ เตรียมไว้ให้เราใส่เดินเล่นถ่ายรูปเก๋ๆทั่วรีสอร์ทไปเลย

เหมือนเดินอยู่ในสวนที่ญี่ปุ่นเลย บรรยากาศดี๊ดี

น่ารักสุดเห็นจะเป็น Mascot  นามิ & อูมิ  หมาจิ้งจอกตัวน้อยมาเต้นโชว์เสต็ปให้เราดู  น่ารักสุดๆไปเลย

นั่งจิบน้ำชาอุ่นๆแก้หนาวก็ฟินไป  หรืออยากจะแช่ออนเซ็นให้สบายตัวก็ได้เรียกว่าครบทุกความต้องการเลยทีเดียว

เราไปตะลุยกันต่อที่  Night Market Loutong  (หลัวตง) หาของกินมากระแทกปากอีกแล้ว ฮ่าๆๆ

เดินเข้าตลาดมาเราจะเจอสตรีทฟู๊ดตลอดสองข้างทางเลือกกินไม่ถูกอยากจะแวะมันทุกร้านเลยอ่ะ (มีความตะกละ)

เบียร์ผลไม้ของดีที่น่าลิ้มลอง  รสชาติกลมกล่อมดื่มง่ายหลับสบายกันเลยทีเดียว  Zzzz

Dancewoods Hotel  :  ราคาประมาณ  6,500  NTD+10% Up

การเดินทาง  :  จาก Taipei Main Station ไปลง สถานี Yilan  แจ้งกับทางโรงแรมล่วงหน้าให้ Shuttle bus มารับ

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  :  www.dwsresort.com.tw

Day 2

ตื่นเช้ามากับบรรยากาศที่สดชื่น สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ  รีบไปเก็บกระเป๋าและเดินทางต่อจร้า

เรายังคงวนเวียนอยู่ในเมืองจีหลง (Keelung)  แต่เป็นคนละฟากฝั่ง

YM  Oceanic Culture and Art Museum

ในอดีตนั้นจีหลงเป็นเมืองท่าที่มีความสำคัญทางด้านวัฒนธรรมและการคมนาคมขนส่งเป็นอย่างมาก  จึงได้มีการสร้างอาคาร  YM  Oceanic Culture and Art Museum  เพื่อบันทึกเรื่องราวประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมต่างๆไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา

เมืองจำลองการเดินเรือ

ตรงนี้เราสามารถลองบังคับเรือออกจากฝั่งกันได้ด้วยนะสนุกเลยหละ

ซุ้มจำหน่ายของที่ระลึกสำหรับหิ้วกลับมาฝากคนที่บ้าน ^^

YM  Oceanic Culture and Art Museum  :  เปิดให้บริการทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์  เวลา  9.00-17.00 น.

บัตรเข้าชม  :  คนละ  100  NTD

การเดินทาง  : นั่ง MRT ลงสถานี  Keelung  อาคาร OCAM อยู่ฝั่งตรงข้าม

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  :  www.ocam.org.tw

เมืองจีหลง  (Keelung)  :  www.gokeelung.com.tw

ออกมาเดินเล่นด้านนอกกันบ้าง  ที่เห็นไกลๆนั่นคือเรือสำราญที่พาเที่ยวข้ามประเทศหรือโรงแรมกลางน้ำนั่นเองเราจะมีโอกาสได้นั่งกะเขาบ้างมั้ยน๊อ

วันนี้ตรงท่าเรือเขามีงาน  Keelung City Expo 2017 จะคล้ายกับนิทรรศการบ้านเรานี่หละมีทั้งของโชว์และของขายมากมาย

ที่นี่จะมีตราแสตมป์ให้เราได้ประทับทุกที่เลย  ครั้งหน้าต้องพกสมุดเล่มน้อยๆมาด้วยแล้ว

พอเดินนานๆก็เริ่มหิวมาถึงท่าเรือทั้งทีของเด็ดมันก็ต้องอาหารทะเล  มื้อนี้ขอฝากท้องไว้ที่ร้าน   Yu Pin Hsuan (Sea Food)  กินอีกแล้ววว

โอ๊ยๆๆ ไต้หวันมีแต่ของอร่อยจริงๆเลย

ท้องอิ่มแล้วอย่าเพิ่งหลับเพราะวันนี้ยังอีกยาวไกล  ฮ่าๆๆ  สถานที่ต่อไปคือพิพิธภัณฑ์เหมืองทองคำและหมู่บ้านแมวเมืองหูต่ง  เขาว่ากันว่าทาสแมวทุกคนต้องมาาา

Gold Museum

พิพิธภัณฑ์เหมืองทองคำ  เป็นการเที่ยวชมอุโมงค์เหมืองแร่ที่จำลองที่ต้องนั่งรถไฟเข้าไปชมบรรยากาศภายในเพื่อให้เราได้รู้ถึงเรื่องราวในอดีตของสถานที่แห่งนี้

โยกเพลินเลยนะเจ้าเด็กน้อย

ระหว่างเหมืองแร่และหมู่บ้านแมวถูกกั้นขวางด้วยแม่น้ำ  อากาศเย็นและลมแรงมาก  อาจเป็นเพราะพื้นที่ตรงนี้ถูกภูเขาโอบล้อมเอาไว้

และนี่ก็คือสะพานที่เราข้ามมาจากเหมืองทองคำ

Houtong Cat Village

จากหมู่บ้านที่ผู้คนย้ายออกไปจนเกือบจะกลายเป็นหมู่บ้านร้าง  สัตว์เลี้ยงถูกทิ้งจนล้นเมืองแต่กลับมีการพัฒนาที่ดีจากสถานที่ของสัตว์จรจัดกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวของคนรักสัตว์แถมยังมีชื่อเสียงโด่งดังอีกด้วย  บ้านเราน่าจะมีแหล่งท่องเที่ยวแบบนี้บ้างเนอะ

มีร้านค้าเข้ามาทำธุรกิจจำหน่ายสินค้าแรไอเทมเกี่ยวกับเจ้าแมวเหมียวเต็มไปหมด

สถานีรถไฟ  Houtong

Houtong Cat Village  :  สามารถเดินทางไปได้ทุกวัน

การเดินทาง :  จาก Taipei Main Station  ขบวน Fu Xing/Qu Jian ประมาณ 12 ป้าย  ลงสถานี  Houtong  Station

หมู่บ้านโบราณ จิ่วเฟิ่น (Jiufen)

เมืองโบราณเล็กๆที่ตั้งอยู่บนยอดเขา  ทางขึ้นเป็นบันไดสูงพอสมควรต้องใช้พลังในการเดินสักหน่อยและสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้าและอาหารการกินมากมาย

คิดดูละกันว่าสูงขนาดไหนมองเห็นทะเลอยู่ลิบๆนู่นเลย

เมืองโบราณบนยอดเขา “จิ่วเฟิ่น”  แหล่งรวมขนมโบราณแสนอร่อย

มีภาษาไทยซะด้วย  ประเทศเรานี่โกอินเตอร์จิงๆ

เคยได้ยินกันไหม “เต้าหู้เหม็น” ที่มาก็คือตอนหมักกลิ่นมันจะแรงมากพอๆกับกลิ่นรถขยะกทม.บ้านเราเลย  แต่พอทำเสร็จดันกลายเป็นของอร่อยที่ขึ้นชื่อไปซะได้

ตลอดทางเดินมือก้ไม่เคยว่างเลย ของมันน่าหม่ำน่าลองไปหม๊ดดด

ในหมู่บ้านมีร้านทำรองเท้าเกี๊ยะด้วยนะรอรับได้เลย  แต่อันที่เห็นนี้เป็นไซด์มินิมันใส่ไม่ได้เน้ออ

หากใครอยากชมพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า เรามีโฮสเทลน่ารักๆในตลาดจิ่วเฟิ่นมาแนะนำไว้ให้เป็นทางเลือกนะจ๊ะ

ตลาดโบราณจิ่วเฟิ่น (Jiufen)  :  สามารถเข้าชมได้ทุกวัน

การเดินทาง  : นั่ง MRT ลงสถานี  Zhongxiao Fuxing  ทางออก 1  เดินย้อนกลับมายังป้ายรถเมล์  ขึ้นรถสาย 1062 Taipei To Jinguashin  แล้วลงที่ป้าย  Jiufen Old Street

ที่พักจิ่วเฟิ่น  :  www.9-feng.tw

เมื่อคืนเรากลับมานอนตีพุงที่  6 Star Motel  เมืองเถาหยวน

โมเตลที่นี่เลิศหรูดูไฮโซ  แต่ราคาสบายกระเป๋ามาก  ห้องแฟมิลี่ นอนได้ 4-5 คน  ราคาอยู่ที่  2680-3680  NTD  ขึ้นอยุู่กับช่วงเวลาที่เข้าพัก

Day 3

ตื่นขึ้นมาก็หิวเลยเพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้อง หม่ำอาหารเช้าแล้วลุยกันต่อ

เราไปเจอที่พักเด็ดๆสำหรับคนที่ชอบเล่นเกมส์มาฝากด้วย I-hotel  เป็นโรงแรมในเครือของ  6 Star Motel  ที่เรานอนเมื่อคืน

เสียแค่ค่าห้องพักก็สามารถุเล่นกันได้ตามสบาย  แต่แนะนำให้ไปกับคอเกมส์ด้วยกันนะ ถ้าไปกับคู่รักที่ไม่ชอบเล่นเกมส์คงตีกันตายเพราะไม่ได้ออกไปเที่ยวแน่นอน

DIY พายสัปปรด  เหว่อเก๋อ  ( Vigor Kobo )

“พายสับปะรด”  ของฝากขึ้นชื่อของไต้หวันถ้าไม่ได้ติดมือกลับบ้านถือว่าพลาดมาก  เราเลือกมาที่เหว่อเก๋อเพราะเขามีแพคเกจ DIY ให้เราได้มีส่วนร่วมในการทำพายเองด้วย  ที่เห็นสีเหลืองใหญ่ๆมันคืออุโมงค์ที่พาเราไปยังโรงงานการผลิตตามขั้นตอนต่างๆ  อยากรู้ว่ามีอะไรต้องมาดูเองเน้อ

ทางร้านจะเตรียมแป้งกับไส้สับปะรดไว้ให้  เรามีหน้าที่เอาไส้ยัดลงไปในแป้งแล้วนำไปใส่ลงในแป้นพิมพ์ แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้ว

เตรียมพร้อมเข้าตู้อบ

นี่คือพายสับปะรดแสนอร่อย  ขี้มือเราเองงง

Taipei   Sightseeing  

ตามเรามาจะพาไปนั่งรถชมเมืองกับ  Taipei Sightseeing  รถบัสสองชั้นด้านบนเป็นหลังคาเปิดโล่งรับลมสบาย  แต่ถ้านั่งกลางวันนี่ก็ต้องพกหมวกกันแดดกันหน่อย  หรือถ้ากลัวร้อนก็นั่งชั้นล่างมีแอร์เย็นสบาย

บนรถมีหูฟังแจกเพื่อฟังการแนะนำสถานที่ต่างๆขณะที่รถแล่นผ่าน  ซึ่งเป็นภาษาอังกฤษ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี  แต่เจ้าหน้าที่บอกกับเราว่าเร็วๆนี้ จะมีภาษาไทยแล้วน๊า  แถมยังมีฟรีไวไฟให้แชะแล้วแชร์ได้ทันทีอีกด้วย

จุดขึ้นรถจะอยู่ตรง Taipei Main Station  หลังจากนั้นรถบัสจะพาเราไปรอบๆเมืองไทเป  เพื่อชมบรรยากาศสองข้างทางที่มีสถานที่สำคัญหลายแห่งตั้งอยู่

รถบัสชมเมืองจะมีให้บริการสองสาย คือสายสีน้ำเงินจะพาไปยังส่วนเหนือของไทเป  และสายสีแดงจะพาไปส่วนตะวันตก

เราสามารถขึ้นหรือลงรถตรงสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆตรงไหนก็ได้ตามจุดจอดที่รถวิ่งผ่าน

เราลงตรงหน้าตึก ไทเป 101  ตึกที่สูงที่สุดในไต้หวันและมีลิฟท์ที่เร็วที่สุดในโลก จากชั้น 1-89 ใช้เวลาไม่ถึง 1 นาทีเลย ที่เล่ามานี่ก็ยังไม่ได้ขึ้นกับเขาหรอกนะเพราะเวลาไม่พอ  ครั้งหน้ารับรองไม่พลาด

Chiang  Kai-Shek  Memorial  Hall

อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค เป็นสถานที่สำคัญของเมืองไทเปถูกสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงอดีตประธานาธิบดี “เจียง ไค เช็ค”  ลักษณะสถาปัตยกรรมแบบตำหนักจีนโบราณดูสง่างามและยิ่งใหญ่  บันไดขึ้นไปด้านบนมีจำนวน 89 ขั้น  เท่ากับอายุของประธานาธิบดี “เจียง ไค เช็ค”  (ตอนเราไปอยู่ระหว่างปรับปรุงถ้าเสร็จแล้วตัวอาคารจะขาวสะอาดสวยงามกว่านี้มาก)

ด้านหน้าเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่คนทั่วไปมาเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจกับบรรยากาศสบายๆ  จะมีทั้งแบบมาเป็นครอบครัว กลุ่มเพื่อน และคู่รักที่น่าอิจฉา ==

ไฮไลท์ต้องห้ามพลาดของที่นี่  คือพิธีเปลี่ยนเวรยามของทหารรักษาการณ์ซึ่งจะมีทุกต้นชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น.  ของทุกวัน แต่ถ้าอยากเจอพี่ทหารเดินไปเชิญธงชาติลงแนะนำให้ไปช่วงเวลา ห้าถึงหกโมงเย็นนะจ๊ะ

Chiang Kai-Shek Memorial Hall  :  เปิดให้เข้าชมทุกวัน  เวลา  9.00-18.00 น.

การเดินทาง  :  นั่ง MRT สาย 2 สีแดง และสาย 3 สีเขียว  ลงสถานี  Chiang Kai-Shek Memorial Hall  ทางออก 5

หลังจากที่ตะลอนทัวร์มาทั้งวันแล้วคืนนี้เราจะพักกันที่  PAPA WHALE โรงแรมในเครือเดียวกับ Midtown Richardson Hotel  ซึ่งอยู่ในย่านแหล่งช๊อปปิ้งที่เขาเรียกกันว่าสยามสแควร์ไต้หวัน ช๊อปเสร็จจะได้ไม่ต้องเดินไกล อิอิ

เก็บของอาบน้ำเสร็จท้องก็เริ่มหิวอีกล้าววว  และเมนูเด็ดที่พลาดไม่ได้อีกเช่นเคยก็คือ ชาบูหมาล่า  อาหารยอดนิยมของชาวไต้หวันอีกอย่างหนึ่ง  เราหม่ำกันที่ร้าน  TAKAO  1972  ตั้งอยู่ที่ชั้นล่างของโรงแรมนี่เองไม่ต้องเดินไปไหนไกล  น้ำซุปเข้มข้นกับพริกหมาล่ารสชาติมันจัดจ้านมากเลยแกร๊

ซีเหมินติง( Ximending )

“ซีเหมินติง” หรือ “สยามสแควร์ไต้หวัน ”  แหล่งช๊อปปิ้งชื่อเสียงโด่งดังที่เหล่านักช๊อปทั้งหลายไม่ควรพลาด ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าแบรนด์เนมทั้งหลายที่เขาร่ำลือกันว่าถูกกว่าบ้านเราเยอะ

สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้าไม่ว่าจะเป็นของฝากของแฮนด์เมดเดินดูกันเพลินเชียวหละ  ส่วนร้านรถเข็นที่อยู่ตามข้างถนนแบบนี้ก็ต้องคอยวิ่งหนีเทศกิจกันด้วยนะ นอกจากจะขายของเก่งแล้วต้องวิ่งเร็วอีกต่างหาก  ฮ่าๆ

1973  คือร้านไก่ทอดที่อร่อยมากกกก  ดูได้จากคิวที่ย๊าวยาวว

เดินเจอแต่ของกินตลอดเลย ก็บอกแล้วตัวไม่แตกเราจะไม่กลับ

คนอื่นเขาเดินช๊อป เสื้อผ้า รองเท้ากระเป๋า แต่เราเน้นของกินอย่างเดียว ฮ่าๆๆๆ

ปิดท้ายคืนนี้กันด้วย “Milk Tea” ชานมแบบขวดยอดนิยมที่มีแพคเก็ตสวยๆเหมาะที่จะนำกลับไปเป็นของฝากคนที่บ้านราคาก็ถูกหาซื้อก็ง่ายมีขายตามมินิมาร์ททุกแห่ง

พรุ่งนี้ต้องกลับบ้านแล้ว >.<  ออกมาเที่ยวทีไรเวลาผ่านไปไวมากกก  ไต้หวันยังมีอีกแหล่งท่องเที่ยวอีกหลายเมืองเลยที่เราปักหมุดไว้ยังไงต้องกลับมาอีกแน่ๆ  ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการออกเดินทางเน้อ

อยากได้ตั๋วถูกแบบเราติดดาวเพจนี้เลย www.facebook.com/thailionair

สำรองที่นั่งได้ที่  :  www.lionairthai.com

ข้อมูลการท่องเที่ยว กรมการท่องเที่ยวไต้หวัน  :  www.taiwan.net.tw

การท่องเที่ยวไทเป  :  www.travel.taipei

:: follow us ::

Youtube : https://goo.gl/Tk9uHo
Fan Page : https://goo.gl/kDE9eh
Facebook : https://goo.gl/S42XZq
Instagram : https://goo.gl/60tM0B
Twitter : https://goo.gl/wx2I34
Pinterest : https://goo.gl/P1FsxN
Google+ : https://goo.gl/uQrGS9
Website : https://www.palapilii.com/

#palapilii
#wanderlust
#YOLO

Leave a Reply

*